สิ่งที่ควรรู้ ก่อนย้ายไปประเทศออสเตรเลีย

ชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศออสเตรเลีย บทสัมภาษณ์น่าอ่านจากคนไทย

บทสัมภาษณ์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผมหวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่สนใจ

บทสัมภาษณ์ (1)

2

คุณ คุณ Kathy

อาศัยอยู่ที่: Mount Gambier (ออสเตรเลียใต้) ประเทศออสเตรเลีย

มาจาก: อุทัยธานี

บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศออสเตรเลีย เธอคือคุณ Kathy และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย

ในมุมมองของคุณ คุณคิดว่ามันยากไหมสำหรับการที่คนไทยต้องปรับตัวไปใช้ชีวิตแบบคน ออสเตรเลีย แล้วถ้ามันยาก มันยากยังไง และอะไรเป็นเรื่องที่ปรับตัวยากที่สุด

ทุกอย่างต้องปรับตัวทั้งนั้นค่ะ ทุกอย่างไม่ง่ายเลย ยิ่งเราไม่มีญาติพี่น้อง ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ไม่รู้ว่าใครเราควรไว้ใจ คนข้างตัวที่เราคิดจะฝากชีวิตยังไว้ใจไม่ได้

อยากให้เล่าต่อไหมคะว่าทำไมมาถึงวันนี้ วันที่มีชีวิตที่เคยฝันไว้ มีอิสระภาพทางการเงิน และเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม และบ้านเช่าหลายแห่งในออสเตรเลีย

หลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างหมดความอดทน ดิฉันตัดสินใจหนีไปตายเอาดาบหน้า หอบลูก 4 คนหนีออกจากบ้านไปหลบๆซ่อนๆอยู่อีกเมืองหนึ่งกลัวเขาเจอ และได้รับความช่วยเหลือจาก Women shelter หาทนายความและหาคำแนะนำทางกฎหมาย รอจนกว่าจิตใจเข้มแข็งพอ หลังจากนั้นก็ขอหย่าจากเขา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราถูกนำไปเล่าในศาล

ศาลรู้เรื่องทั้งหมดกลับสงสารเรากับลูกมากขึ้น ศาลตัดสินวันเดียวให้เราได้ลูกทั้งหมด และออกคำสั่งให้เขานำเอาเอกสารของเราและลูกทั้งหมดที่เขาเอาไปมาคืนภายใน 7 วันมิฉะนั้นจะต้องติดคุก หลังจากได้เอกสารกลับคืนมา ดิฉันได้ขอล้มละลายเพื่อไม่ต้องจ่ายหนี้ของเขาที่ใช้ชื่อเราได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยขาของตัวเอง

ดิฉันได้เปิดกิจการตัดผ้าอีกครั้ง โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เปิดที่บ้านค่ะ ดูลูกไปด้วยทำงานไปด้วยค่ะ กิจการดีมาก เย็บผ้าทั้งวันทั้งคืนเพราะทำคนเดียว ลูกๆก็มาช่วยสอยชายกางเกง ให้เป็นค่าขนม

ต่อมาก็มาเจอกับสามีคนนี้ชื่อทอม ภรรยาเขาเสียด้วยโรคมะเร็งเต้านม 9 ปีก่อนที่เราจะเจอกัน เขาเป็นลูกค้าร้านตัดผ้าของเราค่ะ เราคุยกันถูกคอ เราชอบคล้ายๆกัน เขาก็พยายามหางานให้เราทำเรื่อยๆ เพื่อจะได้เจอเราบ่อยๆ ต่อมาเขาบอกว่าชอบดิฉันมาก อยากแต่งงานด้วย ดิฉันตกใจมาก

ที่ตกใจเพราะเพิ่งหย่ากับสามีเก่า ใบหย่าน้ำหมึกยังไม่แห้งเลย มีคนมาขอแต่งงานอีก เขาเป็นคนดีแต่เราไม่แน่ใจ จึงขอหมั้นไว้ก่อน พอ 6 เดือนเขาขอแต่งงานอีก ดิฉันไม่อยากแต่ง กลัวหลังแต่งเขาจะเปลี่ยน จึงถามเขาว่าทำไมต้องการแต่งงานกับดิฉัน ลูกตั้ง 4 คน สมบัติสักชิ้นก็ไม่มี และเพิ่งล้มระลาย เขารู้ทุกอย่างเพราะได้เล่าให้เขาฟัง

เขาบอกเขาชอบนิสัยเราและเรามีคุณสมบัติที่เขาต้องการ ไม่ใช่เงินทอง เพราะเขามีหมดแล้ว ทอมเขามีกิจการโรงแรมและมีบ้านเช่าหลายที่ค่ะ แต่ดิฉันไม่สนใจเพราะคิดว่ามันไม่ใช่ของเรา เขาดีกับลูกๆดิฉันมาก ดิฉันกลัวการแต่งงานจึงให้เขารอไปอีกหนึ่งปี พอหนึ่งปีเขาก็ขอแต่งงานอีก ดิฉันก็ยังไม่อยากแต่งจึงมีข้อแม้เยอะ เช่นหลังจากแต่งงานกันแล้ว ห้ามด่า ห้ามไล่เราและลูกออกจากบ้านถ้าโมโห

เขาก็รับปากทุกอย่าง ดิฉันตกลงแต่งงานกับเขา หลังแต่งงานดิฉันก็ยังเย็บผ้าเหมือนเดิม รับงานกลางวันเย็บผ้ากลางคืน และกลางวันช่วยงานโรงแรมของสามีไปด้วย ทำอย่างนี้เป็น 10 ปีค่ะ หาเงินใช้เองไม่เคยขอสามี เพราะเรามีลูกของเราที่ต้องใช้เงิน สามีก็ดูแลอย่างดีทุกอย่างที่จำเป็นเขาก็ซื้อให้หมด

ต่อมาสามีเห็นทำงานหนักกลางวันและกลางคืนเย็บผ้า จึงขอร้องให้ดิฉันหยุดเย็บผ้า และมาบริหารโรงแรมอย่างเดียว ดิฉันเคยหาเงินใช้เอง แล้วเขาบอกให้หยุด จึงมีข้อต่อรองอีก ดิฉันบอกว่าถ้าต้องการให้ดิฉันหยุดเย็บผ้ามาดูงานโรงแรมอย่างเดียว จะต้องให้ดิฉันเป็นเจ้าของกิจการด้วยถึงจะยอม เขาเห็นดิฉันเป็นคนขยันจึงยอมทำตาม

มันเป็นเวลาที่เขาอยากเกษียณด้วย ดิฉันจึงเริ่มบริหารโรงแรมเองตามต้องการ ดิฉันใช้ความรู้ด้านตัดเย็บมาใช้ในโรงแรม ตัดเย็บของตกแต่งในโรงแรมเอง ลูกค้าจะบอกเสมอว่ามาพักโรงแรมเราเหมือนพักอยู่บ้าน เพราะเราจะตกแต่งแบบบ้าน ไม่เหมือนโรงแรมทั่วไปค่ะ
เขามีโรงแรมในเมืองแอดดะเลท ลูกชายเขาเป็นผู้จัดการที่นั่นค่ะ ส่วนดิฉันจัดการที่เมือง Mount Gambier SA ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐนี้ค่ะ เขาให้ความเป็นใหญ่ทั้งการงานและการเงิน เริ่มจากกิจการโรงแรมดิฉันได้มีโอกาส ได้ทำอสังหาริมทรัพย์ เรามี Holiday homes ให้นักท่องเที่ยวพักรายวัน ดิฉันทำกิจการนี้มาแล้ว 20 ปี และคิดว่าจะทำต่อไปอีกสิบปีเพราะรักงานนี้มากค่ะ

ป้ายร้านตัดผ้ายังเก็บไว้ ตั้งแต่สมัยอยู่เมืองไทย หอบเอามาออสเตรเลียด้วยค่ะ ชีวิตที่อยู่ได้เพราะจักรเย็บผ้า

คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ:จากอุทัยธานีสู่ประเทศออสเตรเลีย

บทสัมภาษณ์ (2)

คุณ Haruthairat Suwalak – ชื่อเล่น…กุ๊ก

อาศัยอยู่ที่: เมือง: ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย

มาจาก: สงขลา

บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศออสเตรเลีย เธอคือคุณ Haruthairat Suwalak และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย

บอกข้อดี 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลีย ตามความคิดเห็นของคุณ – บอกข้อเสีย 3 ข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียครับ

ข้อดี 3 ข้อ

1. ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะคนไทยอยู่เยอะมาก สามารถหาสินค้าจากเมืองไทยได้เกือบทุกอย่าง
2. ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน มีกฏหมายรองรับคุ้มครอง
3. คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รายได้ดี

ข้อเสีย

1. กฏหมายที่นี่ค่อนข้างแรง ฉะนั้นต้องเรียนรู้และปรับตัว เป็นอย่างมาก เช่น ถ้าจอดรถในที่ห้ามจอดจะโดนปรับ 250$ ฝ่าไฟแดง 450$ โดนหัก 3 แต้ม เป็นต้น ซึ่งคนไทยอาจจะไม่ชิน
2.ค่าใช้จ่ายค่าที่พักมีราคาสูง
3.ใบ certificate ต่างๆที่ได้มาจากเมืองไทยไม่มีคุณค่าอะไรเลยสำหรับที่นี่ ทุกคนจะต้องเริ่มใหม่ ต้องมีใบ certificate ของที่นี่เท่านั้น

สาวใต้ ตะลัล ลัลลา ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

บทสัมภาษณ์ (3)

คุณ Sunny

อาศัยอยู่ที่: บริสเบน (Brisbane) รัฐควีนสแลนด์ (Queensland) ประเทศออสเตรเลีย

มาจาก: พิษณุโลก

บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศออสเตรเลีย เธอคือคุณ Sunny และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย

ในมุมมองของคุณ คุณคิดว่ามันยากไหมสำหรับการที่คนไทยต้องปรับตัวไปใช้ชีวิตแบบคนออสเตรเลีย แล้วถ้ามันยาก มันยากยังไง และอะไรเป็นเรื่องที่ปรับตัวยากที่สุด

การปรับตัวสำหรับคนไทยในช่วงห้าปีแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะพื้นฐานสังคมแตกต่างกันรูปแบบชีวิตต่างกันในทุกๆด้าน ทุกคนจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวและปรับใจ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ศูนย์ ในการปรับตัวจะยากหรือง่าย เร็วหรือช้าเพียงใดขึ้นอยู่กับการย้ายถิ่นในขณะที่ยังมีอายุน้อยหรือมากอีกด้วย

ความยากในปีแรกๆที่มาอยู่ใหม่มีอยู่หลายประการเช่น
ต้องเริ่มต้นสร้างเพื่อนใหม่ซึ่งใช้เวลา การหาเพื่อนไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะคนที่นี่ใช้ชีวิตมีความเป็นส่วนตัวสูงมากหากไม่ใช่เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกัน การหาเพื่อนใหม่ก็ยิ่งลำบาก

– ในแง่มุมของการหางานทำทุกคนไม่สามารถหางานทำได้ทันที ความรู้ การศึกษาและประสบการณ์การทำงานจากประเทศไทยไม่สามารถนำมาใช้ได้ทุกอย่าง การจะหางานทำในออสเตรเลียได้ทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมในสาขาอาชีพต่างๆและมีประสบการณ์การทำงานในสาขานั้นๆของประเทศออสเตรเลียมา เพราะการสมัครหางานในอาชีพที่ทุกคนต้องการ(ตามความสามารถของตนเอง) ยังมีการแข่งขันกับผู้สมัครหางานรายอื่นๆอีกด้วย เมื่อได้งานทำในระยะปีแรกๆต้องปรับตัวและเรียนรู้ในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการยากสำหรับชาวไทยหรือคนต่างชาติในระยะเริ่มต้นที่จะปรับตัวได้ทันทีทันใดและต้องทำใจหากไม่ผ่านการทดลองงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากงานนั้นเป็นงานแรกของชีวิตในประเทศออสเตรเลีย อย่าท้อใจ เพราะชาวไทยยังต้องเรียนรู้อีกมากเนื่องจากประสบการณ์ในการทำงานยังไม่เพียงพอ
– ในแง่มุมของภาษา ชาวไทยหลายคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษยังไม่คล่องจะไม่สามารถทำงานปรกติทั่วไปในสังคมออสเตรเลีย ทางออกสำหรับชาวไทยที่ยังไม่มีทักษะการทำงานแบบชาวออสเตรเลียที่พอจะทำได้คือมองหางานในกลุ่มคนเชื้อชาติไทยที่เปิดร้านอาหาร ถือเป็นก้าวแรกของชีวิตที่นี่เช่นทำงานเป็นคนเสิร์ฟอาหารหรือทำครัว ซึ่งเป็นการเริ่มต้นหาประสบการณ์ที่ไม่เลวนัก
– ในแง่มุมของการใช้ชีวิตกับคู่สมรส ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีการใช้ชีวิตทุกด้านในสังคมออสเตรเลียควบคู่ไปกับการเรียนรู้อุปนิสัยของสามีและคนรอบข้าง เรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบชาวตะวันตกและอื่นๆอีกมากมาย
– ในช่วงระยะปีแรกของการปรับตัวจะเป็นช่วงที่ชาวไทยอาจรู้สึกหงุดหงิดเกิดความท้อและมีความเหงาคิดถึงบ้านอย่างรุนแรง มีการตกตะลึงทางวัฒนธรรมการเรียนรู้ทุกๆอย่างพร้อมๆกัน เป็นช่วงที่กดดันบีบคั้นจิตใจ ชาวไทยต้องดูแลจิตใจตัวเองให้ดีที่สุดเพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อาจเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับสามีเนื่องจากเกิดโรคซึมเศร้าหลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมาสักระยะหนึ่ง
– ช่วงปีแรกที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลีย การปรับตัวหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องที่ยาก แต่เรื่องที่ยากที่สุดในการปรับตัวคือการใช้ชีวิตที่ต้องเลี้ยงดูลูกหลังการหย่าร้างกับสามีหรือภรรยา ต้องอยู่คนเดียวเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่ายในต่างประเทศซึ่งไม่มีญาติพี่น้องคอยช่วยเหลือสนับสนุน ชาวไทยต้องมีจิตใจเข้มแข็งมีสติในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ต้องพยายามสร้างเพื่อนสร้างมิตรภาพ สร้างเครือข่ายใหม่ๆให้ตนเองทุกช่วงของชีวิต
เพื่อการเอาตัวรอดให้ดีขึ้น

การดำเนินชีวิตในประเทศออสเตรเลีย, รัฐควีนส์แลนด์ในฐานะผู้มาอยู่ใหม่

บทสัมภาษณ์ (4)

คุณ Sunny

อาศัยอยู่ที่: บริสเบน (Brisbane) รัฐควีนสแลนด์ (Queensland) ประเทศออสเตรเลีย

มาจาก: พิษณุโลก

ผมอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักกับคุณ Sunny อีกครั้งหนึ่งครับ ครั้งนี้คุณ Sunny จะมาเล่าถึงประสบการณ์ของเธอเกี่ยวกับการพบเจอวัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างคนไทยกับคนออสเตรเลีย และเกี่ยวกับการอยู่อาศัย, การทำงาน, การหาความรัก(คู่รัก)ในประเทศออสเตรเลีย

ตั้งแต่ที่คุณ Sunny ย้ายจากประเทศไทยมาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียครั้งแรกมีวัฒนธรรมหรือการปฏิบัติอย่างใดของชาวออสเตรเลียบ้างครับที่คุณ Sunny รู้สึกประหลาดใจ ( cultural shock ) ช่วยบอกผมมาอย่างน้อยสัก 3 ข้อ

ครั้งแรกที่ย้ายมาอยู่ประเทศออสเตรเลีย สิ่งแรกๆที่ทำให้ดิฉันรู้สึกประหลาดใจและตกใจคือการเห็นภาพที่ล่อแหลมออกทางสื่อโทรทัศน์ ภาพหญิงชายเปลือย ทางประเทศไทยไม่อนุญาตให้เผยแพร่ภาพชายหญิงเปลือยออกอากาศ เมื่ออยู่ไปสักระยะสิ่งที่ดิฉันเริ่มเห็นคือการผายลมในระหว่างสังสรรค์กันกับเพื่อนชาวออสเตรเลี่ยนซึ่งเป็นผู้ชายส่วนใหญ่ในกลุ่ม พวกเขาทำหน้าเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ทำให้ดิฉันคิดได้เองว่าการผายลมของคนที่นี่ในระหว่างเพื่อนฝูงเป็นสิ่งที่ธรรมดาและแสดงความเป็นกันเอง ขณะนั้นดิฉันรู้สึกอายมากและไม่แน่ใจว่าดิฉันควรจะวางตัวอย่างไรกับสถานการณ์แบบนั้น เพราะมันเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตและดิฉันรู้สึกว่ามันเป็นความแปลกพิลึกที่เขาไม่อายสุภาพสตรี สิ่งที่สามที่เห็นคือคนแต่งกายไม่สุภาพ เช่นการเดินเท้าเปล่าเข้าไปซื้อของในร้านค้า หรือการถอดเสื้อเดินเข้าร้านเล็กๆ หรือถอดเสื้อและเดินแถวๆริมถนน และการแต่งตัวไปสมัครสอบสัมภาษณ์เรื่องงานชาวออสเตรเลี่ยนในรัฐควีนสแลนด์แต่งตัวตามสบายง่ายเกินไป หรือการกอดจูบแสดงความรักในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยระหว่างคู่รัก สิ่งเหล่านี้ในปัจจุบันกลายเป็นภาพความเคยชินแล้ว

ความต่างทางวัฒนธรรมที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อประโยชน์สุขแก่คู่สามีภรรยาต่างวัฒนธรรมและเชื้อชาติ

บทสัมภาษณ์ (5)

คุณ Patwaran Bundit – ชื่อเล่น ต้า

อาศัยอยู่ที่: ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย

บทสัมภาษณ์ผู้หญิงไทยที่ย้ายไปอยู่ยังต่างประเทศ ครั้งนี้ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้หญิงไทยที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังประเทศออสเตรเลีย เธอคือคุณ Patwaran Bundit และนี่คือ มุมมอง ประสบการณ์ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย

อะไรที่คนออสเตรเลียชอบและคุณบอกผมได้ไหมว่าผู้ชายออสเตรเลียเป็นอย่างไร ผู้หญิงออสเตรเลียเป็นอย่างไรและครอบครัวของคนออสเตรเลียเป็นอย่างไร

ต้าของแสดงความคิดเห็นแบบรวมๆของนะคะ ในความคิดของต้าคนออสเตรเลียจะ• ง่ายๆ (หรือที่เขาเรียกกันว่า laid back) คือหากอะไรที่มัน “แฟร์” เค้าก็จะโอเค ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากมาย ตรงไปตรงมา• ให้ความสำคัญกับครอบครัว เช่น ห้างที่นี่จะปิด 5 โมงเย็น เพื่อให้คนได้กลับบ้านไปใช้เวลาพักผ่อน หรือใช้เวลากับครอบครัว • สอนลูกให้พึ่งตัวเองได้ หลายๆคนที่เจอจะส่งเสริมให้ลูกไปทำงานหาเงิน และเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น จะได้รู้จักดูแลตัวเองได้• ไม่เห็นว่าการเป็น Single mum เป็น “เรื่องใหญ่” (แต่ที่ไทย…หลายๆครั้งที่ประเทศไทย มักจะถูกนินทา ว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ดีมากๆ) แต่จริงๆมันก็แค่ครอบครัวไม่ work out และแต่ละคนก็ต้องเดินหน้าต่อไป • ชอบ joke ที่มีความ sarcasm ที่ต้าเจอมาคือ Joke เกี่ยวกับ sex tourism ที่ประเทศไทย เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เพราะมันจริง และมันก็ตลกจริงๆ (แต่หากเป็นคนไทยคนอื่น…บางคนอาจจะโกรธแบบไม่มองหน้ากันไปแล้วแน่ๆ)

มาเปิดโลก มาเปิดมุมมอง มาเพิ่มประสบการณ์ในต่างประเทศ

 

เพิ่มเติม

ชีวิตหญิงไทยในต่างแดน เฟสบุ๊คเพจ 

Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s